กระเป๋าแบตเตอร์รี่นั้นทางเราได้พัฒนาไปเรื่อยๆตามแต่ชนิดของรถแต่ละรุ่นในภาพนี้จะเป็นรุ่นที่วางกระเป๋าแบตไว้ด้านหลังจักรยาน จะเห็นว่ากระเป๋านั้นจะมีอยู่ 2 ชั้น คือ ชั้นบนและล่าง ดังภาพ
ด้านบนเราจะใส่สวิทช์เบรคเกอร์หนึ่งตัว ทำหน้าที่เป็นสวิทช์และฟิวส์ไปใตัว หากระบบชอร์ต หรือ ใช้กำลังงานมากเกินไปก่อนที่ระบบจะเสียหายจะให้เบรคเกอร์ตัวนี้ตัดเองอัตโนมัติครับ ดีมากๆเลยครับ เมื่อจะใช้งานก็ On เลิกใช้งานก็ Off เท่านั้นก็เสร็จ
ด้านในเราจะทำการใส่ชุดแบตเตอร์รี่เข้าไป ทั้งหมดมี 3 ก้อนนะครับ Spec คือ ก้อนละ 12 Volt 7.5 Ah เราก็สามารถวิ่งไปได้ในระยะไม่เกิน 20 กิโลเมตร หากท่านใดต้องการเพิ่มระยะทางในการวิ่งก็อาจจะเพิ่มขนาดของแบตให้มีกระแสมากขึ้นเองก็ได้นะครับ (แล้วแต่การดัดแปลงในการประกอบของผู้ซื้อ)
จุดปิดล๊อกของกระเป๋าเพื่อความสวยงาม
ทางออกของสายไฟ36โวลท์ที่จะไปจ่ายให้กับชุดคอนโทรนเลอร์
เนื่องจากระยะของคอนโทรนเลอร์กับกระเป๋าแบตเตอรืรี่อยู่ห่างกันตามระยะของตัวจักรยานเราจึงให้ชุด Jack หัวท้ายและใส่ในคริปทองแดงไปหนึ่ง ชุด เพื่อให้ท่านเชื่อมสายไฟเอง ขนาดของสายไฟควรจะเป็นชนิดสายไฟของแดงด้านในเป็นเส้นเล็กๆเยอะๆภายในหนาพอสมควรเพราะกระแสเยอะ หนาประมาณ 1-2 มิลลิเมตร เส้นทองแดงเต็ม ใส่ใน กระแสไฟจะได้วิ่งได้สะดวก (หรือลูกค้าวัดระยะแล้วบอกให้เราทำเพิ่มตามระยะเป็น Option พิเศษ เพื่อความสวยงามในการติดตั้งครับ)
การสังเกตสายไฟภายในนั้นควรจะปลอกให้เห็นสายไฟด้านในเลยว่ามีความหนาของเส้นทางแดงด้านในมากตามที่เราต้องการเพราะร้านค้าสายไฟบางรายเอาสายไฟมาขายแบบพลาสติกหุ้มหนาแต่สายทองแดงด้านในน้อย ก็อาจจะทำให้สายไฟร้อนได้เมื่อใ้ชงานรถจักรยานไฟฟ้าที่เราประกอบขึ้น
วิธีการดูเอบร์สายไฟว่าสายเส้นนี้มี Spec แบบไหน ก็ให้ดูด้านข้างของสายไฟนะครับ จากภาพจะเห็นว่า เขียนว่า AV 1.0 Full size แสดงว่าสายเส้นนี้มีขนาดใส่ทองแดงภายใน หนาขนาด 1 มิลลิเมตร เต็ม เราควรใช้เส้นขนาด 1.5-2 เต็ม จะดีมากครับ ภาพด้านบนสายเส้นสีแดงที่เห็นมีขนาด 2 มิลลิเมตร ครับ
[Tools for Bicycle] [Step 1] [Step 2] [Step 3] [Step 4] [Step 5] [Step 6] [Step 7] [Step 8] [Step 9] [Step 10] [Step 11] [step 12] [Step 13] [Step 14] [Step 15]